๐๐๕ | นาฬิกาที่หมุนทวนกลับ

ผมใส่นาฬิกาเรือนหนึ่งมานานเป็นปีแล้ว
โดยที่ส่วนมากมักจะไม่ถอด แม้แต่เวลาอาบน้ำ เวลานอน
มันให้ความรู้สึกที่ทวนความจำได้ดีเหลือเกิน

ถึงผมไม่ได้มีอะไรให้จำมากมายเช่นคนที่คิดมากทั้งหลาย
แต่เหตุการณ์ต่างๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ก็สั่งสมบ่มเป็นความอาลัย
เหมือนกับว่าผมจะไม่ได้เดินไปตรงนั้นอีกแล้วนะ

เปรียบชีวิตเป็นบันได ก็ไม่ถูกนัก
เพราะบันไดนั้น เดินลงมาได้
แต่ชีวิต เหมือนทางที่เดินไปได้ทิศเดียว
ผมจะเดินกลับมาเก็บของที่ผมทำหล่นไว้ไม่ได้จริงไหม

หลายคนบอกผมว่า ผมควรจะใช้เวลาในช่วงนี้ให้คุ้มค่า
ผมหวังอย่างยิ่งว่า โตขึ้นมาผมจะคิดอย่างที่คนอื่นเขาคิด
คือ "ทำไมกูไม่ใช้เวลาตอนนั้นของกูให้คุ้มค่าวะ
ไปเที่ยวกับเพื่อน ดูหนัง ฟังเพลง
ทำไมตอนนั้นกูมัวแต่หมกมุ่นกับไอ้กองกระดาษที่เรียกว่าหนังสือกับการบ้านวะ"

ผมอ่านบล็อกของพี่เต่า
และมีความคิดคล้อยตามที่พี่เขาเขียนไปเช่นนั้น
ความคิดคนก็เหมือนน้ำที่เชี่ยวกราก
มองแต่ละครั้ง ไม่มีวันซ้ำกันเลย

ตอนนี้ผมคิดว่า การอ่านหนังสือ หมกมุ่นกับไอ้กล่องสี่เหลี่ยมนี่ล่ะ คือความสุขของผมแล้ว
อนาคตข้างหน้า ผมอาจคิดว่า ไอ้กล่องสี่เหลี่ยมห่านี่ มันมีประโยชน์อะไรวะ
หรือผมอาจจะคิดว่า ไอ้กล่องสี่เหลี่ยมนี่ แพงกว่าทองคำซะอีก
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนนี่นา

ผมเลือกที่เพิกเฉยกับคำเตือนที่ว่าผมควรจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่านั้น
เพราะความรู้สึกในตอนนี้ ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้ผิดแผกอะไรจากคนรอบข้าง
ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีความสุขอยู่ในโลกของผมเอง
โลกของผมที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร

ผมมองไปที่นาฬิกาที่ผมใส่มาแรมปีนั้น
มันอัดแน่นไปด้วยความทรงจำที่ทั้งดีทั้งเลวร้ายที่ผ่านเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของชีวิตผมมา
ผมมองมันอย่างเศร้าสร้อย
ไม่รู้ทำไม บางทีผมมองมันเป็นเพียงแค่นาฬิกาที่ใช้บอกเวลา
แต่บางที นาฬิกาเรือนนี้ กลับมีคุณค่าทางจิตใจนัก

ผมนึกสนุก ดึงหมุดของมันออกมาแล้วหมุนกลับ
ความรู้สึกนั้นไม่ได้ย้อนกลับไปตามเข็มนาฬิกาที่หมุนทวนไปเรื่อยๆ
เพียงแต่กำลังคิดว่า ตอนนั้นทำไมผมไม่ใช้เวลาให้ดีกว่านี้นะ

นึกกระหวัดมาถึงคำเตือนของคนหลายๆคนต่อผม
ผมคิดว่า อายุก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความคิดที่ยุ่งเหยิงอันอัดแน่นอยู่ในกะโหลกของคนที่เดินดินทั่วไป
พอโตขึ้น เราทุกคนจะมองเป็นเช่นนี้
แล้วแต่ว่ามาตรฐานการมองของคนนั้นเป็นเช่นไร

บางคนเที่ยวเล่นสนุกกับเพื่อนเต็มที่
แต่พอมองกลับมาอีกที ก็ไม่เห็นว่าตนจะใช้เวลาคุ้มค่าตรงไหน
เหมือนกับผมที่ไม่พอใจในตำแหน่งของตัวเองบนบันไดที่ไม่สิ้นสุดนั้นนั่นแหละ

ดังนั้น ผมจึงคิด
ชีวิตช่วงนั้นเราใช้คุ้มค่าไปแล้วนะ
แต่เราเองต่างหากที่ไร้สามารถจนไม่สามารถเก็บเกี่ยวกำไรชีวิตมาได้มากพอ
ต่อไปเราจะเก็บกำไรชีวิตนี้ไว้ให้มากเท่าที่เป็นไปได้
เท่าที่เรายังมีความสุข กับการเก็บเกี่ยวกำไรชีวิตนั้น

มองนาฬิกาที่ว่านั่น หมุนกลับมาเหมือนเดิม
คิดอย่าวุ่นวายใจ มันเป็นนาฬิกาที่หมุนทวนได้จริง
แต่เวลา ไม่ได้หมุนทวนตามมันไปด้วย
แล้วก้มหน้าก้มตา เดินขึ้นบันไดต่อไป
Comment | Top