๐๐๙ | แนวขึ้นหรือลง
ทุกวันนี้ สังคมไทยเราถูกครอบงำมากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ
การเมืองก็พันกันยุ่งเหยิงเหมือนผมบนหัวคุณป้า
จิตสำนึกก็เตี้ยต่ำเหมือนเด็กทารกที่น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์
ค่านิยมก็ดำมืดเหมือนหมี
สรุปว่าทุกอย่างกำลังจะแย่ลง ในขณะที่วัตถุและเทคโนโลยีทั้งหลายเติบโตไปในทางที่ตรงข้าม
คนเหมือนกับต้นไม้เล็กๆที่พยายามเติบโต หากมีอยู่ต้นเดียวในเอกภพสัมพัทธ์นี้ก็ดูเหมือนกับว่าต้นไม้ดังกล่าวมีค่ามหาศาลและดูโดดเด่น แต่หากต้นไม้เป็นหมื่นแสนพันล้านต้นมาอยู่ด้วยกัน ต้นไม้แต่ละต้นก็จะดูกลมกลืนและไม่สลักสำคัญอันใด
แล้วถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในต้นไม้เหล่านั้นเล่า
คุณจะทำยังไงเพื่อให้ตนเองดูสลักสำคัญ ในหมู่อาณาเขตต้นไม้นั่น
ต้นไม้ส่วนใหญ่พยายามผลิดอกออกผลให้สวยงามและแปลกตา
ซึ่งเปรียบได้กับความพยายามเพื่อแนวของผู้คนทั้งหลาย
บางคนออกดอกออกผลสีสันสดสวย แต่ไร้คุณภาพ
บางคนออกดอกออกผลสีสันธรรมดา แต่แน่นไปด้วยคุณภาพ
ในขณะที่บางคนออกดอกออกผลทั้งสวย และมีคุณภาพ
พิจารณาดูคนต้นไม้ที่ออกดอกสีสันสดสวยไร้คุณภาพ
นั่นหมายถึงคนที่ทำอะไรเพื่อให้ตนดูเด่นขึ้นมาหรือ
ก็อย่างเช่น พยายามทำอะไรให้แนวแบบไม่สร้างสรรค์ หรือสร้างสรรค์โดยสัมพัทธ์เฉพาะตน
ทุกคนคงเคยผ่านชีวิตของตนเองและได้สังเกตเห็นชีวิตของเพื่อน คนรู้จัก หรือคนไม่รู้จักมาบ้างแล้ว
และลองดูว่า เขาพยายามแนวแบบไหน
ผมเคยเห็นคนที่พยายามสักเพื่อความแนว
ผมเคยเห็นคนที่พยายามวาดอะไรสักอย่างใส่ง่ามมือเพื่อความแนว
ผมเคยเห็นคนที่พยายามเอาอะไรมาแขวนใส่อะไรบางอย่างซึ่งเป็นหนึ่งในสามสิบสองของตนเองเพื่อความแนว
จริงอยู่ที่มันไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
แต่เหมือนกับว่า เราเดินตามกระแสที่ต้องแนวอย่างนั้น
เราต้องออกลูกสีแดง เพื่อตามเทรนด์ที่ต้องออกลูกเป็นสีแดงด้วยหรือ
เวลาเห็นคนมามุงดูอะไรที่หน้าตื่นเต้น
บอกตามตรง ว่ามันเหมืิอนฝูงสัตว์ที่มามุงดูอะไรบางอย่างเลยว่ะ
นี่หรือคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกและสถาปนาตัวเองว่าคน
คำตอบนั้นเรียบง่าย
ใช่แล้ว นี่แหละคือคน
คนที่เปรียบเหมือนต้นไม้
คนที่ไม่ทำตามนี้
คนอื่นๆจะเรียกคนคนนั้นว่า
คนไม่ปกติ
คนประหลาด
คนบ้า
คนวิปริต
และคนอื่นๆอีกสารพัดเท่าที่อยู่ในขอบเขตของจินตนาการและความจำ
เหมือนกับกั้นคอกออกมาอย่างนั้น
ตอนต่อจากการไปสนใจสิ่งที่ดูดีนั้น
คือการคุยโวว่า "เฮ้ย แบบนี้บ้านกูก็มี"
"บ้านกูยอดกว่านี้อีกว่ะ"
"9.475 เรอะ เก่าฉิบ เดี๋ยวนี้เขาใช้ 9.478 แล้ว โด่ -- "
เหมือนกับสร้างรัศมีให้ตัวเอง เฮ้ย เจ๋งว่ะ
จบดีกว่า ไม่รู้จะเขียนอะไรดี
เขียนไปก็ไม่มีคนอ่าน ฮ่าฮ่าฮ่า
การเมืองก็พันกันยุ่งเหยิงเหมือนผมบนหัวคุณป้า
จิตสำนึกก็เตี้ยต่ำเหมือนเด็กทารกที่น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์
ค่านิยมก็ดำมืดเหมือนหมี
สรุปว่าทุกอย่างกำลังจะแย่ลง ในขณะที่วัตถุและเทคโนโลยีทั้งหลายเติบโตไปในทางที่ตรงข้าม
คนเหมือนกับต้นไม้เล็กๆที่พยายามเติบโต หากมีอยู่ต้นเดียวในเอกภพสัมพัทธ์นี้ก็ดูเหมือนกับว่าต้นไม้ดังกล่าวมีค่ามหาศาลและดูโดดเด่น แต่หากต้นไม้เป็นหมื่นแสนพันล้านต้นมาอยู่ด้วยกัน ต้นไม้แต่ละต้นก็จะดูกลมกลืนและไม่สลักสำคัญอันใด
แล้วถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในต้นไม้เหล่านั้นเล่า
คุณจะทำยังไงเพื่อให้ตนเองดูสลักสำคัญ ในหมู่อาณาเขตต้นไม้นั่น
ต้นไม้ส่วนใหญ่พยายามผลิดอกออกผลให้สวยงามและแปลกตา
ซึ่งเปรียบได้กับความพยายามเพื่อแนวของผู้คนทั้งหลาย
บางคนออกดอกออกผลสีสันสดสวย แต่ไร้คุณภาพ
บางคนออกดอกออกผลสีสันธรรมดา แต่แน่นไปด้วยคุณภาพ
ในขณะที่บางคนออกดอกออกผลทั้งสวย และมีคุณภาพ
พิจารณาดูคนต้นไม้ที่ออกดอกสีสันสดสวยไร้คุณภาพ
นั่นหมายถึงคนที่ทำอะไรเพื่อให้ตนดูเด่นขึ้นมาหรือ
ก็อย่างเช่น พยายามทำอะไรให้แนวแบบไม่สร้างสรรค์ หรือสร้างสรรค์โดยสัมพัทธ์เฉพาะตน
ทุกคนคงเคยผ่านชีวิตของตนเองและได้สังเกตเห็นชีวิตของเพื่อน คนรู้จัก หรือคนไม่รู้จักมาบ้างแล้ว
และลองดูว่า เขาพยายามแนวแบบไหน
ผมเคยเห็นคนที่พยายามสักเพื่อความแนว
ผมเคยเห็นคนที่พยายามวาดอะไรสักอย่างใส่ง่ามมือเพื่อความแนว
ผมเคยเห็นคนที่พยายามเอาอะไรมาแขวนใส่อะไรบางอย่างซึ่งเป็นหนึ่งในสามสิบสองของตนเองเพื่อความแนว
จริงอยู่ที่มันไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
แต่เหมือนกับว่า เราเดินตามกระแสที่ต้องแนวอย่างนั้น
เราต้องออกลูกสีแดง เพื่อตามเทรนด์ที่ต้องออกลูกเป็นสีแดงด้วยหรือ
เวลาเห็นคนมามุงดูอะไรที่หน้าตื่นเต้น
บอกตามตรง ว่ามันเหมืิอนฝูงสัตว์ที่มามุงดูอะไรบางอย่างเลยว่ะ
นี่หรือคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกและสถาปนาตัวเองว่าคน
คำตอบนั้นเรียบง่าย
ใช่แล้ว นี่แหละคือคน
คนที่เปรียบเหมือนต้นไม้
คนที่ไม่ทำตามนี้
คนอื่นๆจะเรียกคนคนนั้นว่า
คนไม่ปกติ
คนประหลาด
คนบ้า
คนวิปริต
และคนอื่นๆอีกสารพัดเท่าที่อยู่ในขอบเขตของจินตนาการและความจำ
เหมือนกับกั้นคอกออกมาอย่างนั้น
ตอนต่อจากการไปสนใจสิ่งที่ดูดีนั้น
คือการคุยโวว่า "เฮ้ย แบบนี้บ้านกูก็มี"
"บ้านกูยอดกว่านี้อีกว่ะ"
"9.475 เรอะ เก่าฉิบ เดี๋ยวนี้เขาใช้ 9.478 แล้ว โด่ -- "
เหมือนกับสร้างรัศมีให้ตัวเอง เฮ้ย เจ๋งว่ะ
จบดีกว่า ไม่รู้จะเขียนอะไรดี
เขียนไปก็ไม่มีคนอ่าน ฮ่าฮ่าฮ่า
ดินมันเสื่อมลงตั้งแต่หลัง 14 ตุลาฯ
นายทุนเป็นอิสระจากระบอบเผด็จการ
ดินก็เปรี้ยวขึ้นทุกวัน
ต้นไม้ทุกวันนี้ก็นับว่าเป็นผลมาจากตอนนั้นแหละ