๐๒๕ | ความแตกต่าง

"หมอครับ ผมปวดท้องตรงท้องด้านขวา หมอดูอาการให้หน่อยนะครับ"
ชายที่สวมชุดกาวน์เดินออกไปจากห้อง กลับแทนที่ด้วยชายอีกคนใส่แว่นขอบหนา มีหนวดเคราฟุ้ง ใส่เสื้อเชิ้ตธรรมดาๆ
"หมอไปไหนเสียล่ะครับ"
"ผมนี่แหละ หมอ" ชายในชุดเสื้อเชิ้ตพูด "ทีนี้นอนบนเตียง แล้วให้ผมตรวจดูอาการหน่อย"

"อา คุณเป็นไส้ติ่งต้องผ่าตัด"
"ผ่าตัดหรือครับ มันทำยังไงเหรอ ผมจะให้ไปทำที่บ้าน"
"เรื่องมันยาว คุณไม่ต้องหัดทำหรอก ชั่วชีวิตนี้คุณก็ได้ทำแค่ครั้งสองครั้ง หมอเรียนมาอย่างละเอียด ผ่านคนไข้มาก็เยอะ คุณไม่ต้องกลัว"
"ผมไม่ได้กลัว แต่ถ้าผมเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา แล้วใครจะผ่าตัดให้ผม"
"ก็หมอนี่แหละ"
"แต่มันก็รบกวนหมอสิ เจ็บป่วยแต่ละครั้ง ผมก็ต้องมาหาหมอทุกครั้ง ป่วยสิบรอบ ก็มาหาหมอสิบรอบ หมอไม่เหนื่อยแย่หรือ"
"คุณทำอาชีพอะไร"
"ผมทำนาครับ"
"แล้วกินข้าวจากนามั้ย"
"ใช่ครับ เอาไว้ขายด้วย"
"หมอก็กินข้าว แต่หมอไม่ได้ดำนาปลูกข้าวเองสักหน่อย"
"ทำไมหมอไม่หัดล่ะครับ"
"มันยุ่งยาก เสียเวลา การทำนาก็เหมือนศาสตร์ด้านอื่นๆ นั่นแหละ คือละเอียดอ่อน แล้วอีกอย่าง ของพวกนี้มันซื้อหากันได้ ไม่ต้องเสียเวลานั่งปลูกเอง"

"หมอผ่านการเรียนวิชาภาคบังคับมาเหมือนผมมั้ยครับ"
"ใช่อยู่แล้ว หมอน่าจะเรียนมากกว่าคุณด้วยซ้ำ ที่หมอใช้คำว่าน่าจะ เพราะหมอนับถือในอุดมการณ์ความคิดของคุณน่ะ"
"หมอเคยเห็นคนลอกงาน ลอกการบ้านเพื่อนมั้ยครับ"
"เคยสิ หมอก็ยังเคยทำเลย"
"ทำไมหมอพูดเหมือนกับมันเป็นเรื่องปกติอย่างนั้นแหละ"
"หมอเคยเฉพาะตอนที่จำเป็นจริงๆ น่ะ"
"แล้วการซื้อข้าวคนอื่นมา ไม่เหมือนการลอกหรอกหรือครับ"
"ไม่เหมือน เพราะข้าวมันซื้อหาแลกเปลี่ยนได้ แต่ความรู้ก็อยู่คู่เราคนเดียว"
"เราก็ซื้อความรู้จากค -- อ๊ะ -- ไม่ได้นี่"
"ใช่แล้ว ตรงนี้แหละ ที่ว่าทำไมการทำงานกับการผ่าตัดแตกต่างกัน การฝึกทำงาน เป็นการปูฐานของบ้านที่ยั่งยืน แต่การผ่าตัด การซื้อข้าว เป็นการซ่อมแซมและเติมเชื้อเพลิงให้กับบ้านต่างหาก"
"เชื้อเพลิง? หมอจะเผาบ้านหรือครับ"
"เปล่า ไม่ใช่ หมอหมายถึง สิ่งที่ทำให้บ้านหรือคนในบ้านขับเคลื่อนไปได้น่ะ"

"นัดวันไหนครับหมอ"
"พรุ่งนี้ วันนี้เอายาแก้ปวดไปกินก่อน"
"ขอบคุณครับ ผมจะเอายาแก้ปวดนี่ไปซ่อมหลังคาเสียหน่อย"

๐๒๔ | อันว่าด้วยว่าว่าด้วยว่า

"มองดูท้องฟ้าที่ดารดาษอยู่ตรงหน้าสิ"
"บ้านพ่อมึงสิ นี่มันตอนกลางวัน"
"ตอนกลางวันไม่ได้หมายความว่าดูท้องฟ้าไม่ได้"
"มึงจะมาโรแมนติกห่าอะไรตอนนี้วะ"
"ตะวันกำลังเจิดจ้า เมฆหนาไม่บาง ช่างเป็นอะไรที่รื่นรมย์ยิ่งนัก"
"ร้อนจะตายห่า มึงยังมีหน้าทำอารมณ์รื่นอีก ไอ้สัตว์"
"โอ้ว่าตะวันเจ้าเอ๋ย ไหนเลยตอนนี้เจ้าจึงไม่ลับขอบฟ้า ครั้นเมื่อพอถึงเวลา แล้วเจ้าหนีข้าไปไหน"
"มึงจีบกู ? ไอ้ ... ตอนนี้เนี่ยนะ"
"เวลาไม่สำคัญ อันสิ่งสำคัญนั้นคือรัก"
"ขอกระโถน"
"ไยเจ้าไม่มองดูตะขาบนั้นบ้าง นวลนางเห็นหรือไม่ ดูที่ขาอันเป็นคู่นั่นไซร้ เดินไปเป็นคู่เหมือนสองเรา"
"มึงไปเล่นทอล์คโชว์เถอะ กูขำตายห่าแล้ว"
"ต้นไม้สูงใหญ่ เปรียบดั่งใจของเราที่ยั่งยืนเคียงคู่"
"พอพอ กูจะทำการบ้าน"
"การบ้านส่งครูไม่ส่งช่างประไร แต่การบ้านส่งใจส่งไปให้ตรงเวลา"
"ไอ้สัตว์ ขนาดการบ้านมึงยังเอานะ"
"สัตว์โดยทั่วอยู่เคียงคู่ ไฉนเราไม่อยู่เป็นคู่เคียงกันเช่นนั้นเล่า"
"นั่นมันสัตว์ ไม่ใช่คน"
"หากแม้ไม่ใช่คน ข้าจะขอไม่เป็นคนตามรักเจ้าทุกชาติไป"
"มึงอยากโดนไม้บรรทัดมั้ย"
"ไม้บรรทัดหักไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่อกหักนี้ไซร้เจ็บใจยิ่งนัก"
"อ๋อ แสดงว่าต้องการรองเท้า"
"รองเท้าอยู่คู่เจ้าของ เช่นข้าที่อยู่คู่ผู้หมายปอง"
"แม่ง น้ำแถวนี้เน่าหมดแล้ว"
"กลิ่นใดใดไม่มี เพราะโลกนี้มีแต่สองคนข้าเจ้า"
"โอเค ให้กูพูดอะไร มึงถึงจะหยุดโปรยน้ำลายค่า BOD สูงของมึงใส่กูเสียที"
"รัก"

...

"รัก"
"เฮ้ย มึงจบง่ายๆ อย่างนี้เรอะั"
"เออสิวะ กูรำคาญ"
"กูอุตส่าห์งัดเอาวิชาของปู่ที่ยัดไว้ใต้เตียงกูตั้งแต่ตอนแกมีชีวิตอยู่เลยนะโว้ย"
"ย่ามึงนี่ น่าสงสารนะ"

...

"คราวนี้เอาจริงๆ แกเห็นอะไรข้างนอกมั้ย"
"ไม่"
"กูก็ไม่เห็น"